การคำนวณแรงบิดของมอเตอร์ที่มีช่องอากาศต้องใช้พารามิเตอร์และขั้นตอนหลายอย่าง ช่องอากาศคือพื้นที่ระหว่างสเตเตอร์กับโรเตอร์ และส่งผลต่อประสิทธิภาพของมอเตอร์อย่างมาก ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนและสูตรในการคำนวณแรงบิดของมอเตอร์ที่มีช่องอากาศ
1. แนวคิดพื้นฐาน
แรงบิด (T):
แรงบิดคือแรงหมุนที่สร้างโดยโรเตอร์ของมอเตอร์ โดยวัดได้ในหน่วยนิวตัน-เมตร (N·m)
ช่องอากาศ (g):
ช่องอากาศคือระยะห่างระหว่างสเตเตอร์กับโรเตอร์ ซึ่งส่งผลต่อการกระจายสนามแม่เหล็กและการทำงานของมอเตอร์
2. สูตรการคำนวณ
2.1 ความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็กในช่องอากาศ
ก่อนอื่นให้คำนวณความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก (Bg) ในช่องอากาศ:

เมื่อ:
Φ คือฟลักซ์แม่เหล็กรวม (เวเบอร์, Wb)
Ag คือพื้นที่ของช่องอากาศ (ตารางเมตร, m²)
2.2 ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็กในช่องอากาศกับกระแสไฟฟ้า
ความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็กในช่องอากาศสามารถเชื่อมโยงกับกระแสไฟฟ้าสเตเตอร์ (Is) และความยาวช่องอากาศ (g) โดยใช้สูตรต่อไปนี้:

เมื่อ:
μ0 คือความทะลุผ่านทางแม่เหล็กของอากาศ (4π×10 −7 H/m)
Ns คือจำนวนรอบของวงจรสเตเตอร์
Is คือกระแสไฟฟ้าสเตเตอร์ (แอมแปร์, A)
g คือความยาวช่องอากาศ (เมตร, m)
2.3 การคำนวณแรงบิด
แรงบิดสามารถคำนวณโดยใช้สูตรต่อไปนี้:

เมื่อ:
T คือแรงบิด (นิวตัน-เมตร, N·m)
Bg คือความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็กในช่องอากาศ (เทสลา, T)
r คือรัศมีของโรเตอร์ (เมตร, m)
Ap คือพื้นที่ผิวของโรเตอร์ (ตารางเมตร, m²)
μ0 คือความทะลุผ่านทางแม่เหล็กของอากาศ (4π×10 −7 H/m)
3. สูตรย่อสำหรับการประยุกต์ใช้งานจริง
ในการประยุกต์ใช้งานจริง มักใช้สูตรย่อในการคำนวณแรงบิดของมอเตอร์ สูตรย่อยอดนิยมคือ:

เมื่อ:
T คือแรงบิด (นิวตัน-เมตร, N·m)
k คือค่าคงที่ของมอเตอร์ ขึ้นอยู่กับการออกแบบและพารามิเตอร์ทางเรขาคณิตของมอเตอร์
Is คือกระแสไฟฟ้าสเตเตอร์ (แอมแปร์, A)
Φ คือฟลักซ์แม่เหล็กรวม (เวเบอร์, Wb)
4. ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่ามอเตอร์มีพารามิเตอร์ดังนี้:
กระแสไฟฟ้าสเตเตอร์
Is=10 A
ความยาวช่องอากาศ
g=0.5 มม. = 0.0005 เมตร
จำนวนรอบของวงจรสเตเตอร์
Ns=100
รัศมีของโรเตอร์
r=0.1 เมตร
พื้นที่ผิวของโรเตอร์
Ap=0.01 ตารางเมตร
ก่อนอื่นให้คำนวณความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก Bg:

สรุป
การคำนวณแรงบิดของมอเตอร์ที่มีช่องอากาศต้องใช้พารามิเตอร์หลายอย่าง รวมถึงความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็กในช่องอากาศ กระแสไฟฟ้าสเตเตอร์ ความยาวช่องอากาศ รัศมีโรเตอร์ และพื้นที่ผิวของโรเตอร์ โดยการปฏิบัติตามสูตรและขั้นตอนดังกล่าว แรงบิดของมอเตอร์สามารถคำนวณได้อย่างถูกต้อง