ประเภทของสายนำส่งไฟฟ้าทางอากาศมีอะไรบ้าง?
นิยามของสายนำส่งไฟฟ้าทางอากาศ
สายนำส่งไฟฟ้าทางอากาศคือสื่อกลางทางกายภาพที่ใช้ในการขนส่งพลังงานไฟฟ้าผ่านระยะทางในระบบการส่งและกระจายพลังงาน
ทองแดงกับอลูมิเนียมเป็นตัวนำ
ตัวนำอลูมิเนียมได้รับความนิยมมากกว่าทองแดงเนื่องจากประสิทธิภาพด้านต้นทุนและความสามารถในการลดการปล่อยประจุไฟฟ้าแม้ว่าจะมีความนำไฟฟ้าและแรงดึงต่ำกว่า
ประเภทของตัวนำ
ตัวนำทางอากาศประกอบด้วย AAC, ACAR, AAAC, และ ACSR ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกัน
คุณสมบัติของ AAC
AAC มีความแข็งแรงน้อยและหย่อนตัวมากกว่าตัวนำอื่นๆ ทำให้เหมาะสมสำหรับระยะทางสั้นในระดับการกระจายพลังงาน
มีความนำไฟฟ้าที่ดีกว่า ACSR ที่แรงดันต่ำ
ราคาของ AAC เหมือนกับ ACSR
ACAR (Aluminium Conductor, Aluminium Reinforced)
มีราคาถูกกว่า AAAC แต่มีแนวโน้มเกิดการกัดกร่อน
มีราคาสูงสุด
AAAC (All Aluminium Alloy Conductor)
มีโครงสร้างเดียวกับ AAC ยกเว้นวัสดุผสม
มีความแข็งแรงเท่ากับ ACSR แต่มีน้ำหนักเบาเนื่องจากไม่มีเหล็ก
การมีวัสดุผสมทำให้มีราคาสูง
เนื่องจากมีความแข็งแรงแรงดึงมากกว่า AAC จึงใช้สำหรับระยะทางยาว
สามารถใช้ในระดับการกระจายพลังงานเช่น การข้ามแม่น้ำ
มีการหย่อนตัวน้อยกว่า AAC
ความแตกต่างระหว่าง ACSR และ AAAC คือน้ำหนัก ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า จึงใช้ในระบบส่งและรองส่งพลังงานที่ต้องการโครงสร้างสนับสนุนที่เบา เช่น ภูเขา ทุ่มน้ำ เป็นต้น
ACSR (Aluminium Conductor Steel Reinforced)
ACSR ใช้สำหรับระยะทางยาวโดยลดการหย่อนตัว อาจประกอบด้วยเส้นใยเหล็ก 7 หรือ 19 เส้นที่ล้อมรอบด้วยเส้นใยอลูมิเนียม
จำนวนเส้นใยแสดงเป็น x/y/z โดย 'x' คือจำนวนเส้นใยอลูมิเนียม 'y' คือจำนวนเส้นใยเหล็ก และ 'z' คือเส้นผ่าศูนย์กลางของแต่ละเส้น
เส้นใยให้ความยืดหยุ่น ป้องกันการหัก และลดผลกระทบจากการผิว
จำนวนเส้นใยขึ้นอยู่กับการใช้งาน อาจเป็น 7, 19, 37, 61, 91 หรือมากกว่านั้น
หากเส้นใยอลูมิเนียมและเหล็กถูกแยกโดยวัสดุเติมเช่น กระดาษ แล้ว ACSR ชนิดนี้จะใช้ในสาย EHV และเรียกว่า ACSR แบบขยาย
ACSR แบบขยายมีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น จึงมีการสูญเสียจากการปล่อยประจุไฟฟ้าน้อยลง
IACS (International Annealed Copper Standard)
เป็นตัวนำที่บริสุทธิ์ 100% และเป็นมาตรฐานอ้างอิง