ความสัมพันธ์ระหว่างอินดักแทนซ์กับจำนวนรอบของขดลวดคืออะไร?
อินดักแทนซ์ (Inductance) มีความสัมพันธ์โดยตรงกับจำนวนรอบ (Number of Turns) ของขดลวด โดยเฉพาะ อินดักแทนซ์
L แปรผันตามกำลังสองของจำนวนรอบ N ความสัมพันธ์นี้สามารถแสดงได้ด้วยสูตรต่อไปนี้:

ที่:
L คือ อินดักแทนซ์ (หน่วย: เฮนรี, H)
N คือ จำนวนรอบของขดลวด
μ คือ ค่าความชุ่มชื้นแม่เหล็ก (หน่วย: เฮนรี/เมตร, H/m)
A คือ พื้นที่ตัดขวางของขดลวด (หน่วย: ตารางเมตร, m²)
l คือ ความยาวของขดลวด (หน่วย: เมตร, m)
คำอธิบาย
จำนวนรอบ
N: ยิ่งมีจำนวนรอบของขดลวดมากเท่าไหร่ อินดักแทนซ์ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากแต่ละรอบเพิ่มเติมจะทำให้ความแรงของสนามแม่เหล็กเพิ่มขึ้น จึงทำให้พลังงานแม่เหล็กที่เก็บสะสมเพิ่มขึ้น ดังนั้น อินดักแทนซ์จะแปรผันตามกำลังสองของจำนวนรอบ
ค่าความชุ่มชื้นแม่เหล็ก
μ: ค่าความชุ่มชื้นแม่เหล็กเป็นคุณสมบัติทางแม่เหล็กของวัสดุ วัสดุต่าง ๆ มีค่าความชุ่มชื้นแม่เหล็กที่แตกต่างกัน วัสดุที่มีค่าความชุ่มชื้นแม่เหล็กสูง (เช่น ฟีอริตหรือแกนเหล็ก) สามารถเพิ่มความแรงของสนามแม่เหล็ก ทำให้อินดักแทนซ์เพิ่มขึ้น
พื้นที่ตัดขวาง
A: พื้นที่ตัดขวางของขดลวดที่ใหญ่ขึ้น อินดักแทนซ์จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่ตัดขวางที่ใหญ่ขึ้นสามารถรองรับฟลักซ์แม่เหล็กได้มากขึ้น
ความยาวของขดลวด
l: ยิ่งขดลวดยาวเท่าไหร่ อินดักแทนซ์จะยิ่งลดลง เนื่องจากขดลวดที่ยาวกว่าหมายความว่าฟลักซ์แม่เหล็กจะกระจายอยู่ในพื้นที่ที่กว้างขึ้น ทำให้ความหนาแน่นของพลังงานแม่เหล็กต่อหน่วยความยาวลดลง
การใช้งานจริง
ในการใช้งานจริง อินดักแทนซ์สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำโดยการปรับจำนวนรอบของขดลวด การเลือกวัสดุแกนที่เหมาะสม และการเปลี่ยนแปลงเรขาคณิตของขดลวด ตัวอย่างเช่น ในวิศวกรรมวิทยุ การกรองพลังงาน และการประมวลผลสัญญาณ การออกแบบอินดักเตอร์อย่างถูกต้องมีความสำคัญมาก
สรุปแล้ว อินดักแทนซ์แปรผันตามกำลังสองของจำนวนรอบของขดลวด ความสัมพันธ์นี้ถูกกำหนดโดยหลักการพื้นฐานของแม่เหล็กไฟฟ้า โดยการออกแบบอย่างเหมาะสม ค่าอินดักแทนซ์ที่ต้องการสามารถบรรลุได้