ข้อดี
เพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบจ่ายไฟฟ้า: เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับหลายเครื่องถูกต่อขนานกันเพื่อสร้างโครงข่ายไฟฟ้า ทำให้แรงดันและความถี่ของการจ่ายไฟฟ้าคงที่ และสามารถรับแรงกระแทกจากการเปลี่ยนแปลงโหลดที่ใหญ่ได้
บำรุงรักษาง่าย: สามารถใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลายเครื่องต่อขนานกัน อนุญาตให้มีการวางแผนและการกระจายโหลดทั้งโหลดจริงและโหลดแพร่งอย่างเป็นศูนย์กลาง ทำให้การบำรุงรักษาและการซ่อมแซมสะดวกและทันท่วงทีมากขึ้น
เศรษฐศาสตร์: ตามขนาดของโหลด สามารถลงทุนในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กที่เหมาะสม เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่ทำงานที่โหลดต่ำ
ความสามารถในการขยาย: โดยการติดตั้งเฉพาะอุปกรณ์การผลิตไฟฟ้าและการต่อขนานที่จำเป็นในปัจจุบัน สามารถเพิ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลเมื่อมีความต้องการขยายกำลังของโครงข่ายไฟฟ้า ทำให้การต่อขนานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพิ่มเติมทำได้ง่าย และการลงทุนครั้งแรกจะคุ้มค่ามากขึ้น
ปรับปรุงคุณภาพการจ่ายไฟฟ้า: การต่อขนานเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับสามารถเพิ่มคุณภาพการจ่ายไฟฟ้า เพราะหากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องหนึ่งหยุดทำงานเนื่องจากข้อผิดพลาด เครื่องกำเนิดไฟฟ้าต่อขนานอื่นๆ ในระบบจะแบ่งเบาภาระ ทำให้ป้องกันการหยุดจ่ายไฟฟ้าที่เกิดจากการหยุดทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเดียว
ข้อเสีย
ความซับซ้อนเพิ่มขึ้น: การต่อขนานต้องการให้แรงดัน ความถี่ และเฟสเหมือนกัน ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับระบบ
ความยากในการประสาน: การทำให้สอดคล้องต้องการการควบคุมที่แม่นยำและอุปกรณ์ที่สอดคล้อง เช่น ไฟแสดงสถานะการประสาน รีเลย์ หรืออุปกรณ์ประสาน
ความต้องการในการบำรุงรักษาสูง: แม้ว่าการต่อขนานจะให้ความสะดวกในการบำรุงรักษา แต่ก็ต้องการทักษะการบำรุงรักษาที่สูงขึ้นและกระบวนการบำรุงรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้น
การลงทุนครั้งแรกสูงขึ้น: แม้ว่าการต่อขนานอาจประหยัดในระยะยาว แต่การลงทุนครั้งแรก รวมถึงค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ต่อขนานและระบบควบคุมการประสาน อาจสูงขึ้น
โดยสรุป การต่อขนานเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับสองเครื่องสามารถให้การจ่ายไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ช่วยในการบำรุงรักษาและการขยาย และในบางกรณีอาจประหยัดกว่า แต่ก็ทำให้ระบบซับซ้อนขึ้น มีความยากในการประสาน และต้องการทักษะการบำรุงรักษาที่สูงขึ้น ดังนั้น เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้การต่อขนานหรือไม่ จำเป็นต้องพิจารณาความต้องการของแอปพลิเคชันเฉพาะและข้อจำกัดทางงบประมาณอย่างรอบคอบ